อังกฤษหรือสหราชอาณาจักร เป็นประเทศที่มีความคลาสสิคทั้ง ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแบบยุโรป เหมาะสมกับเป็นเมืองผู้ดีชวนให้ น่า หลงใหลน่าค้นหา กีฬาฟุตบอลไม่พูดถึงไม่ได้เลยอีกหนึ่งเหตุผลหลักที่ต้อง ไปอังกฤษและเป็นประเทศ Top 5 ที่คนไทยอยากไปมากที่สุด และ The 25 Best Countries in the world ติดอันดับ 6 ของโลก ไม่ว่าจะไป เรียนต่อหรือท่องเที่ยว ด้วยความมีชื่อเสียงทั้งด้านการศึกษาที่ติดอันดับโลก และได้ใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นต้นกำเนิดเลยอีกทั้งสิ่งแวดล้อม ที่ช่วยพัฒนา ภาษาอังกฤษได้ดีทีเดียว ยิ่งถ้าเรียนจบจากอังกฤษและใช้ สมัครงานไม่ว่าจะ ในหรือต่างประเทศก็เป็นดีกรีที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก
“ทำไมต้อง UK?”
ทำไมต้อง UK ไปดูกันค่ะ
- ประเทศที่ต้อนรับนักเรียนต่างชาติมากที่สุด
- ความหลากหลายของนักเรียนต่างชาติมากที่สุด
- เรียนไปด้วย ทำงานไปด้วย
- โอกาสการหางานหลังเรียนจบ
- มหาวิทยาลัยคุณภาพระดับโลก
- Russell Group คือกลุ่มอะไร?
“Welcome to UK”
#ประเทศที่ต้อนรับนักเรียนต่างชาติมากที่สุด
เมื่อการเดินทางมาที่อังกฤษ นักเรียนหลายคนคงไม่ได้อยากได้แค่ใบปริญญาหรือ ใบประกาศนียบัตรเท่านั้น แต่ยังต้องการประสบการณ์การฝึกงาน ทำงานจริงหรือประสบการณ์ ท่องเที่ยวที่สามารถไปต่อได้ในประเทศแถบยุโรปอีกด้วย ในปี 2020 ซึ่งทางรัฐบาลอังกฤษ (นโยบายนี้ได้ถูกยกเลิกไปเมื่อปี 2012)ได้มีนโยบายและมอบโอกาสให้นักเรียนต่างชาติ ได้ทำงานถูกต้องตามกฎหมายหลังเรียนจบอีกครั้ง ระบบการศึกษาอังกฤษเป็นที่ยอมรับ ทั่วโลก เมื่อจบการศึกษาจากอังกฤษ โอกาสในการได้งานที่ชอบและบริษัทที่อยากทำ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นักเรียนต่างชาติเลือกที่จะเรียนต่อที่อังกฤษ ได้ความรู้ ประสบการณ์ฝึกงาน ทำงานระหว่างเรียน ทำงานหลังเรียนจบและได้ท่องเที่ยวสถานที่สวยงามในบรรยากาศยุโรป
“Different culture but same goal”
#ความหลากหลายของนักเรียนต่างชาติมากที่สุด
การที่มีนักเรียนหลากหลายเชื้อชาติมาจากทั่วโลกเข้ามาเรียนในสถาบันและมหาวิทยาลัยมากขึ้น ก็เป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าคุณภาพการเรียนการสอนและระบบการศึกษาที่มีประสิทธิภาพมากขนาดไหน ผู้คนถึงได้หลั่งไหลมาเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษกัน และในความหลากหลายเชื้อชาติสิ่งที่น้องจะได้ ความเข้าใจโลกและผู้อื่นมากขึ้น พูดคุย เรียนรู้วัฒนธรรมที่ต่างจากของเราออกไป ซึ่งทำให้เรา เปิดใจมากขึ้นเพื่อรับสิ่งใหม่ ๆ ได้เพื่อนและประสบการณ์ใหม่ที่เราต้องออกมาหาถึงจะได้เจอค่ะ
“Work during study in UK”
#เรียนไปด้วยทำงานไปด้วย
ผู้ที่ถือวีซ่านักเรียนลงเรียน
- ปริญญาตรี (Undergraduate) หรือ ปริญญาโท (Master level) ทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
- Overseas higher education institution in the UK ทำงานได้ 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
- ผู้ที่เรียนในวิทยาลัย (College) หรือ โปรแกรมเรียนภาษาอังกฤษ ทำงานได้ 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
สำหรับจำนวนชั่วโมงที่ทำงานได้ในระหว่างภาคเรียนการศึกษา จะพิมพ์ลงบนสติกเกอร์วีซ่าหรือใบอนุญาตพำนักชั่วคราว (Biometric Residence Permit- BRP)
งาน Part-time ที่เด็กนักเรียนต่างชาติส่วนใหญ่ทำกัน เช่น ทำงานในสถาบันหรือมหาวิทยาลัยที่เรียนอยู่, ร้านกาแฟ, บาริสต้า, พนักงานขายในร้านเสื้อผ้า
Related Link
: https://www.ukcisa.org.uk/Information–Advice/Working/Tier-4-work
“Find your way, Get your job”
#โอกาสการหางานหลังเรียนจบ
สำหรับนักศึกษาเรียนระดับปริญญาตรีขึ้นไป
Post Study Work Visa เป็นโอกาสดีมากสำหรับนักเรียนต่างชาติที่จบการศึกษาระดับ ปริญญาตรีหรือสูงกว่าที่มีสิทธิ์สมัครยื่นวีซ่านี้ได้เมื่อจบการศึกษา สำหรับนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนระดับปริญญาขึ้นไปในปี 2020/2021 เปิดให้กับทุกสาขาวิชา นักศึกษามีสิทธิ์ที่จะใช้วีซ่า 2 ปีในการหางาน ทำงาน ไม่มีข้อจำกัดประเภทงานหรือทักษะใดๆ สรุปคือนักศึกษาทุกคนจะมีสิทธิ์ได้วีซ่านี้หลังเรียนจบค่ะ
*สำหรับนักเรียนที่ลงทะเบียนเรียนภาษาอังกฤษหลังเรียนจบไม่สามารถทำงานได้ค่ะ
Trick : นักเรียนควรยื่นสมัครวีซ่าประเภทนี้ก่อนวีซ่าปัจจุบันหมดอายุ วางแผนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน
Do You Know?
*ก่อนหน้านั้นเมื่อปี 2012 ได้มีประกาศยกเลิกPost Study Work Visa ไป ณ ปีนี้ 2020 ก็นับว่า 8 ปีแล้ว จนทางรัฐบาลอังกฤษได้อนุญาตให้นักเรียนต่างชาติอยู่ต่อได้อีก 2 ปีหลังเรียนจบ
Related Link
: อังกฤษประกาศให้นักเรียนต่างชาติหลังเรียนจบทำงานได้ 2 ปี
“Top 10 World University Ranking”
#มหาวิทยาลัยคุณภาพระดับโลก
จุดเด่นของระบบการศึกษาประเทศอังกฤษ หลักสูตรเรียนเข้มข้นและใช้เวลาเรียนสั้นกว่า มหาวิทยาลัยคุณภาพติดระดับโลก มีหลากหลายสาขาและการศึกษามีความยืดหยุ่น
มหาวิทยาลัยอังกฤษที่ติดอันดับโลก ได้แก่
| 4 | University of Oxford | 7 | University of Cambridge | 8 | UCL | 9 | Imperial College London | 20 | The University of Edinburgh |
| 27 | The University of Manchester | 33 | King’s College London | 44 | The London School of Economics and Political Science (LSE) | 49 | University of Bristol | 62 | The University of Warwick |
| 67 | University of Glasgow | 78 | Durham University | 78 | The University of Sheffield | 81 | University of Birmingham | 93 | University of Leeds |
| 96 | University of Nottingham | 97 | University of Southampton | 100 | University of St Andrews | 126 | Queen Mary University of London | 128 | Lancaster University |
| 146 | Newcastle University | 148 | University of York | 154 | Cardiff University | 163 | The University of Exeter | 172 | University of Bath |
| 173 | Queen’s University Belfast | 181 | University of Liverpool | 194 | University of Aberdeen | 205 | University of Reading | 222 | Loughborough University |
| 239 | University of Leicester | 246 | University of Sussex | 274 | University of Surrey | 291 | Royal Holloway University of London | 296 | University of Strathclyde |
| 302 | University of Dundee | 309 | SOAS University of London | 314 | Heriot-Watt University | 314 | University of East Anglia (UEA) | 328 | Birkbeck, University of London |
| 349 | City, University of London | 359 | Brunel University London | 368 | University of Kent | 370 | University of Essex | 376 | Oxford Brookes university |
| 417 | Goldsmiths, University of London | 442 | Aston University | 462 | Swansea University | 478 | University of Stirling | 484 | Aberystwyth University |
การจัดลำดับจาก QS TOPUNIVERSITIES ณ กันยายน พ.ศ.2563 (September 2020)
แต่ก็ไม่ใช่ว่ามหาวิทยาลัยที่ไม่ติดแร๊งค์จะไม่ดีหรือไม่มีประสิทธิภาพ เพราะระบบการศึกษาของ อังกฤษมีประสิทธิภาพระดับโลก จะต่างกับระบบการศึกษาที่ไทยแต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาในการ สมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในสหราชอาณาจักร เพราะมีคอร์สหรือโปรแกรมที่ช่วยให้นัก เรียนได้พบกับเส้นทางเข้าสู่มหาวิทยาลัยได้ง่ายขึ้น
จำนวนนักเรียนไทยที่ไปเรียนต่อในระดับอุดมศึกษา (HE) ประเทศอังกฤษปี 2018/19
| ประเทศ | จำนวนนักเรียนไทย (คน) |
| England | 5,505 |
| Wales | 100 |
| Scotland | 680 |
| Northern Ireland | 20 |
| Total United Kingdom | 6,305 |
ข้อมูลตัวเลขจาก
: HE Student enrolments by domicile and region of HE provider
“Russell Group คืออะไร?”
#Russell Group คือกลุ่มอะไร?
Russell Group เป็นองค์กรก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1994 องค์กรที่เลือกสรรมหาวิทยาลัยใน UK เข้ามาอยู่ในกลุ่ม เพราะ Russell Group มีวัตถุประสงค์ที่เป็นแกนนำเพื่องานวิจัยต่าง ๆ ใน UK กำหนดรายได้ของมหาวิทยาลัยที่อยู่ในสังกัด Russell Group คัดเลือกบุคคลากรและนักเรียน ที่มีคุณภาพเข้ามาอยู่มหาวิทยาลัยในสังกัด พัฒนาแนวทางระหว่างมหาวิทยาลัยในสังกัดกับ Russell Group เพื่อผลประโยชน์ร่วม
มหาวิทยาลัยที่อยู่ในสังกัด Russell Group ประกอบไปด้วย 24 แห่ง
- University of Birmingham
- University of Bristol
- University of Cambridge
- Cardiff University
- Durham University
- University of Edinburgh
- University of Exeter
- University of Glasgow
- Imperial College London
- King’s College London
- University of Leeds
- University of Liverpool
- London School of Economics
- University of Manchester
- Newcastle University
- University of Nottingham
- University of Oxford
- Queen Mary University of London
- Queen’s University Belfast
- University of Sheffield
- University of Southampton
- University College London
- University of Warwick
- University of York
อัตราการจ้างงาน บริษัทนายจ้างก็ยังคัดเลือกบุคลากรโดยอิงจากมหาวิทยาลัยใน Russell Group ดังนั้นคนที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย Russell Group คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มีโอกาสสูงกว่า ที่จะได้รับการจ้างงาน มากกว่าที่อื่น ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าบริษัททั้งหมดหรือทั่วโลกจะรับ เฉพาะนักศึกษาที่จบจาก Russell Group เท่านั้น เพราะทักษะความสามารถเฉพาะบุคคล ประสบการณ์ที่เหมาะกับประเภทธุรกิจงานที่ทำแตกต่างกันออกไป ไม่ต้องกังวลกับชื่อเสียงสถาบัน ที่เลือก ขอให้นักเรียนเพียงทำให้เต็มที่และเลือกสิ่ง ที่ชอบตรงกับไลฟ์สไตล์มากที่สุด จากเรื่องที่ยากจะง่ายขึ้นมาเลยค่ะ
“เรียนต่อต่างประเทศได้อะไรมากว่าที่คุณคิด รู้แบบนี้แล้ว ไปหาโปรแกรมเรียนกันเลยคะ “
ถ้าพร้อมแล้ว Let’s Go
รู้แบบนี้แล้วรอช้าอยู่ใย รีบตามหาโปรแกรมที่ใช่ ประเทศที่โดน แล้วไปพัฒนาศักยภาพในตัวกันเลยค่ะ พี่ๆ ABROADY ได้แนบลิ้งค์เพื่อให้น้อง ๆ พี่ ๆ ได้เข้าไปเพื่อสามารถเช็ค
โปรแกรม ประเทศ และราคาได้ด้วยตัวเองด้านล่างนี้ พร้อมสามารถกดจองโปรแกรมที่สนใจไว้ได้เลย หากมีข้อสงสัยด้านการไปเรียนต่อต่างประเทศสอบถามทีมงาน ABROADY ได้ตลอดเวลาคะ
